ไขข้อสงสัย! ไฟไหม้รถยนต์ไฟฟ้าทำไมถึงดับไม่ได้? สาเหตุหลักที่เจ้าของรถต้องรู้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเริ่มเห็นรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งบนท้องถนนมากขึ้นเรื่อยๆ และบางครั้งเราก็อาจได้ยินข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ไฟฟ้าที่ทำให้หลายคนสงสัยว่า "ทำไมไฟถึงดับยาก" หรือ "รถไฟฟ้าปลอดภัยจริงไหม"

หากคุณกำลังใช้รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ หรือกำลังสนใจที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า วันนีั อู่ไรส์ซิ่ง อยากอธิบายให้เข้าใจก่อนว่าทำไมไฟในรถยนต์ไฟฟ้าถึงควบคุมได้ยากกว่าไฟธรรมดา พร้อมทั้งแนะนำวิธีการป้องกันและรับมือที่ถูกต้องค่ะ

เหตุใดไฟไหม้รถยนต์ไฟฟ้าจึงควบคุมได้ยาก

ความจริงแล้ว…เหตุการณ์ไฟไหม้ในรถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนรถที่วิ่งอยู่บนท้องถนน อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดขึ้นแล้ว การควบคุมไฟจะใช้เวลานานกว่ารถยนต์ทั่วไปเป็นอย่างมากค่ะ

สาเหตุหลักมาจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่เป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า เมื่อแบตเตอรี่ได้รับความเสียหายจากการกระแทก การรั่ว หรือความผิดปกติภายใน อาจเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "Thermal Runaway" ซึ่งเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ทำให้ความร้อนพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

• ให้นึกถึง ฟืนชิ้นหนึ่งติดไฟ จะลามไปยังอีกชิ้นอย่างรวดเร็ว และยิ่งไหม้ก็ยิ่งร้อน ยิ่งร้อนก็ยิ่งไหม้ต่อไปเรื่อย ๆ
• ในกรณีของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ถ้าเซลล์ใดเซลล์หนึ่งเกิดร้อนจัดหรือเสียหาย ความร้อนนั้นจะกระตุ้นให้เซลล์ข้างเคียงเกิดอุณหภูมิสูงตาม และหากไม่มีระบบตัดหรือระบายความร้อนทันเวลา ไฟจะลุกลามไปยังแบตเตอรี่ทั้งชุดอย่างรวดเร็ว จนยากจะควบคุมค่ะ

จุดที่ทำให้ไฟจากแบตรถไฟฟ้าดับยากกว่าปกติ

การลุกไหม้จากภายใน - ไฟเกิดขึ้นภายในเซลล์แบตเตอรี่ ไม่ใช่เพียงแค่ผิวด้านนอก ทำให้การเข้าถึงและการดับไฟเป็นไปได้ยาก

การปล่อยก๊าซไวไฟ - ระหว่างการเผาไหม้ แบตเตอรี่จะปล่อยก๊าซต่างๆ เช่น ไฮโดรเจน ที่สามารถติดไฟได้ ทำให้เพลิงลุกลามต่อเนื่อง

ความร้อนสูงมาก - อุณหภูมิจากปฏิกิริยา Thermal Runaway สามารถสูงถึง 1,000 องศาเซลเซียส ซึ่งการใช้น้ำธรรมดาไม่สามารถลดอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การลุกซ้ำ - แม้ว่าไฟจะดับได้ในช่วงแรก แต่หากยังมีเซลล์ที่สะสมความร้อนอยู่ ไฟสามารถกลับมาลุกใหม่ได้ และปล่อยความร้อนออกมาเรื่อยๆจนกว่าพลังงานจะหมด

สาเหตุของการเกิดไฟไหม้รถยนต์ไฟฟ้า

การเกิดไฟไหม้ไม่ได้หมายความว่ารถยนต์ไฟฟ้าไม่ปลอดภัย แต่มักเกิดจากปัจจัยเหล่านี้ค่ะ

• ความเสียหายจากอุบัติเหตุ - การชนที่รุนแรงจนกระทบต่อเซลล์แบตเตอรี่ภายใน
• ระบบระบายความร้อนผิดปกติ - เกิดการสะสมความร้อนในแบตเตอรี่
• การชาร์จที่ไม่ถูกต้อง - การใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานหรือชาร์จผิดวิธี
• ความชื้นหรือน้ำเข้าสู่ระบบ - จากการขับผ่านน้ำท่วมหรือจอดในสถานที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน
• ความบกพร่องของแบตเตอรี่ - ตำหนิที่เกิดจากการผลิตหรือการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน

โดยทั่วไปผู้ผลิตมักเล็งเห็นปัญหานี้อยู่แล้ว เลยออกแบบให้รถยนต์ไฟฟ้ามีระบบป้องกันหลายชั้น เช่น ระบบตัดไฟอัตโนมัติและเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงได้ค่ะ

หากเกิดเหตุ จะรับมืออย่างไร

หากพบเหตุไฟไหม้รถยนต์ไฟฟ้า สิ่งสำคัญที่สุดคือ ห้ามพยายามดับไฟด้วยตนเอง เนื่องจากไฟจากแบตเตอรี่แรงดันสูงมีอันตรายมาก

ขั้นตอนการรับมือที่ถูกต้อง

1. รีบออกห่างจากรถทันที - ระยะห่างอย่างน้อย 15-20 เมตร เพื่อความปลอดภัย
2. โทรแจ้งหน่วยดับเพลิง - โทร 199 และแจ้งให้ทราบชัดเจนว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
3. ใช้น้ำฉีดควบคุมความร้อนเบื้องต้น หรือ ใช้ผ้าคลุมกันไฟคลุม - เพื่อรักษาอุณหภูมิ และไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนอื่น
4. ปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญจัดการ - ทีมดับเพลิงมีอุปกรณ์และความรู้เฉพาะในการจัดการไฟจากรถยนต์ไฟฟ้า

การป้องกันที่ดีที่สุด

แม้โอกาสเกิดไฟไหม้รถยนต์ไฟฟ้าจะน้อยมาก แต่การป้องกันไว้ก่อนยังคงสำคัญ เช่น

• มีผ้าคลุมกันไฟ (Fire Blacket) สำหรับรถไฟฟ้า เพื่อคุมเพลิงให้อยู่ในพื้นที่จำกัด ก่อนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะมาถึงพื้นที่เกิดเหตุ
• ตรวจเช็กระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่แรงสูงเป็นประจำ
• หากรถมีการจมน้ำ หรือสตาร์ทไม่ติด มีความเสี่ยงจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ ให้ระมัดระวังพื้นที่จอดโดยรอบรถเป็นพิเศษ
• แยกตัวแบตเตอรี่ออกจากตัวรถทันทีเมื่อรถที่มีความเสียงเข้ามายังอู่ หรือศูนย์บริการ
• พื้นที่จัดเก็บรถที่มีความเสี่ยง ควรอยู่ห่างจากรถคันอื่นอย่างน้อย 15 เมตร และไม่มีหลังคาปกคลุม
• มีระบบตรวจจับความร้อน และแจ้งเตือนบริเวณที่จอดรถไฟฟ้า และบริเวณเครื่องชาร์จ

หากไม่แน่ใจว่ารถมีปัญหาหรือไม่ การตรวจเช็กไว้ล่วงหน้า จะได้ขับรถใช้งานได้ปลอดภัยและสบายใจในทุกวัน

ทั้งนี้ทั้งนั้น เหตุเพลิงไหม้สำหรับรถไฟฟ้าที่เกิดขึ้นนั้น ถือว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดขึ้น และมีจำนวนครั้งที่เกิดเหตุน้อยกว่าเหตุเพลิงไหม้จากรถสันดาป แต่อาจเป็นเพราะข่าวที่ออกไปเวลาเกิดเหตุเพลิงไหม้รถไฟฟ้านั้น มักได้รับกระแสความสนใจที่มากกว่า จึงทำให้รถไฟฟ้าดูน่ากลัว แต่รถไฟฟ้าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากเราเข้าใจ และมีการเตรียมพร้อมการป้องกันอย่างถูกต้อง

ที่ อู่ไรส์ซิ่ง เราเข้าใจดีว่า รถยนต์ไฟฟ้ามีระบบภายในที่ซับซ้อนและแตกต่างจากรถทั่วไป ทั้งในเรื่องแบตเตอรี่แรงดันสูง ระบบไฟฟ้า และระบบระบายความร้อน เราจึงมีบริการตรวจสภาพรถอย่างละเอียด ตั้งแต่ระบบไฟฟ้าภายใน ชุดแบตเตอรี่ โดยใช้เครื่อง OBD ll ในการอ่านค่า SOC (State of Charge หรือ ระดับพลังงานที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่) และ SOH (State of Health หรือ สุขภาพของแบตเตอรี่) รวมไปถึงแรงดัน (v) และค่าความต้านทาน (Ω) ของเซลล์แบตเตอรี่แต่ละเซลล์ เป็น Report PDF ให้ลูกค้าดูได้ ไปจนถึงระบบหล่อเย็นและเครื่องยนต์ (สำหรับรถไฮบริดหรือปลั๊กอิน) โดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทั้งกับรถทั่วไป รถยุโรป และรถยนต์ไฟฟ้าได้ที่

• สาขาบางแค อยู่ติดถนนใหญ่บางแค ตรงข้ามระหว่างซอยบางแค 16 และ 14 เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ *รับซ่อมรถยุโรปและรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ*

หรือจะโทรสอบถามได้เลยที่ 095-535-9797 (คุณภูมิ)