สัญญาณอันตราย! รถความร้อนขึ้นขับต่อได้ไหม?

Last updated: 28 ส.ค. 2568  |  66 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รถร้อน

หลายคนอาจเคยเจอสถานการณ์แบบนี้… ขับรถอยู่ดีๆ แล้วหันไปเห็นเข็มความร้อนพุ่งขึ้น หรือไฟเตือนรูปอุณหภูมิขึ้นมาที่หน้าปัด บางคนอาจคิดว่า "ยังไม่ร้อนมากนะ ขับไปอีกนิดคงได้" หรือ "เหลืออีกแค่ไม่กี่กิโลเมตรก็ถึงแล้ว ฝืนไปเลยก็ได้มั้ย?"

ความจริงแล้ว ถ้าเรายังฝืนขับรถต่อเมื่อเครื่องยนต์ร้อนเกินไปอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายร้อนแรงมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะการเสียค่าซ่อมแตะหลักหมื่นหรือหลักแสน

อู่ไรส์ซิ่ง อยากจะชวนทุกคนดูว่า เมื่อรถร้อนแล้ว ถ้าฝืนขับต่อจะเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงอันตราย และมีวิธีป้องกันหรือแก้ไขเบื้องต้นอย่างไรบ้าง

 

ความร้อนขึ้นคืออะไร?

รถยนต์ทุกคันมีระบบระบายความร้อน เพื่อควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ขณะที่เราขับรถ เครื่องยนต์จะสร้างความร้อนอยู่ตลอดเวลา และต้องอาศัยหม้อน้ำ พัดลม และน้ำยาหล่อเย็น (Coolant) ช่วยระบายความร้อนออก

เมื่อระบบระบายความร้อนมีปัญหา เช่น น้ำในหม้อน้ำแห้ง พัดลมไม่ทำงาน หรือหม้อน้ำรั่ว ความร้อนจะสะสมในเครื่องยนต์มากเกินไป จนทำให้เกิดอาการ “ความร้อนขึ้น” หรือที่บางคนเรียกว่า ”เครื่องฮีท” นั่นเอง

 

รถความร้อนขึ้นขับต่อได้ไหม?

คำตอบสั้นๆ คือ ไม่ควรขับต่อค่ะ
แม้ว่ารถจะยังวิ่งได้อยู่ แต่การฝืนขับต่อไปในขณะที่เครื่องยนต์ร้อนจัด อาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงตามมา เช่น

  • ฝาสูบโก่ง
  • ปะเก็นฝาสูบขาด
  • เครื่องยนต์เสียหายถาวร
  • ต้องยกเครื่องซ่อมใหญ่ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายหลักหมื่นถึงหลักแสน

ดังนั้น หากคุณเห็นว่า เข็มวัดความร้อนขึ้นสูงกว่าปกติ หรือมีไฟเตือนขึ้น แนะนำว่า ให้หาที่จอดรถข้างทางที่ปลอดภัยแล้วดับเครื่องทันที ถึงแม้ว่าอีกนิดเดียวจะถึงปลายทางแล้ว หรืออีกไม่กี่กิโลก็จะถึงปั๊มน้ำมันแล้วก็ตาม

 

ต้องทำยังไงเมื่อความร้อนขึ้น?

  • ถ้าระหว่างขับรถอยู่ แล้วคุณสังเกตว่าเข็มความร้อนพุ่งขึ้นผิดปกติ หรือมีไฟเตือนขึ้นมา สิ่งแรกที่ควรทำคือ ตั้งสติให้ดี อย่าเพิ่งตื่นตระหนก แล้วรีบมองหาจุดที่สามารถจอดรถได้อย่างปลอดภัยที่สุด เช่น ข้างทางในจุดที่มีไหล่ทางหรือบริเวณที่รถไม่พลุกพล่าน
  • เมื่อหาที่จอดได้แล้ว ให้เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อแจ้งเตือนรถคันอื่น จากนั้น ดับเครื่องยนต์ทันที เพื่อหยุดการสะสมของความร้อนในเครื่องยนต์ เพราะยิ่งเครื่องทำงานนานเท่าไหร่ อุณหภูมิก็จะยิ่งสูงขึ้น และอาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกับเครื่องยนต์ได้
  • หลังดับเครื่อง อย่าเพิ่งรีบเปิดฝากระโปรงทันทีนะคะ เพราะขณะที่เครื่องยนต์ยังร้อนจัด อาจมีแรงดันจากไอน้ำหรือน้ำหล่อเย็นที่กำลังเดือดอยู่ภายในระบบ การเปิดฝากระโปรงทันทีอาจทำให้คุณโดนไอน้ำลวกหรือได้รับอันตรายจากแรงดันได้
  • ควรรอประมาณ 15–30 นาที เพื่อให้เครื่องเย็นลงก่อน แล้วค่อย ๆ เปิดฝากระโปรงขึ้นอย่างระมัดระวัง เมื่อเปิดดูแล้ว หากเห็นว่าระดับน้ำหล่อเย็นลดลงมาก บวกกับคุณมีน้ำสำรองหรือ Coolant ติดรถอยู่ และมั่นใจว่าปลอดภัยพอ คุณอาจเติมน้ำเข้าไปได้ เพื่อช่วยให้ระบบทำงานได้ชั่วคราว
  • หากไม่แน่ใจ หรือไม่มีอุปกรณ์พร้อม สิ่งที่แนะนำมากที่สุดคือ เรียกช่างหรือรถลาก เพื่อพารถไปยังอู่ หรือศูนย์บริการ เพราะการขับรถที่มีปัญหาเรื่องระบบระบายความร้อนต่อไป แม้เพียงระยะสั้น ก็เสี่ยงที่จะทำให้เครื่องยนต์เสียหายหนักโดยไม่รู้ตัว
  • ถ้าหากเครื่อง Overheat จากการใช้งานที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ ประกันชั้น1 ของท่านจะไม่รับผิดชอบความเสียหาย ยกเว้นเสียว่า เครื่อง Overheat จากอุบัติเหตุ เช่น กระแทกด้านหน้า แล้วหม้อน้ำรั่ว แต่ขับต่อจนเครื่อง Overheat ซึ่งปกติแล้ว หากเกิดอุบัติเหตุ และมีความเสี่ยงที่น้ำยาหม้อน้ำจะรั่ว แนะนำให้แจ้งทางประกัน ไสลด์รถ หรือ ลากรถเข้าอู่ หรือศูนย์บริการทันที

 

สาเหตุที่ทำให้รถความร้อนขึ้น

บางคนอาจคิดว่าเรื่องความร้อนของเครื่องยนต์เป็นเรื่องไกลตัว แต่ในความเป็นจริง รถทุกคันมีโอกาสเจอปัญหานี้ได้ ควรหมั่นเช็คสาเหตุดังต่อไปนี้ เพื่อไม่ให้เกดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

  • น้ำในหม้อน้ำแห้ง (อาจเพราะรั่วหรือไม่มีการเติมน้ำเลย)
  • พัดลมหม้อน้ำไม่ทำงาน
  • ปั๊มน้ำเสีย น้ำไม่หมุนเวียน
  • ฝาหม้อน้ำเสื่อม ทำให้น้ำไหลย้อนกลับ
  • หม้อน้ำรั่ว หรืออุดตัน
  • เทอร์โมสตัทติดขัด ทำให้น้ำไม่ไหลไปหม้อน้ำ

 

ป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าต้องซ่อมใหญ่

ถ้าคุณมีคำถามคาใจว่า “รถความร้อนขึ้นขับต่อได้ไหม” หวังว่าบทความนี้จะช่วยตอบคำถามได้นะคะ
การดูแลระบบระบายความร้อน ไม่จำเป็นต้องรอให้มีปัญหาแล้วค่อยจัดการ เพราะจริง ๆ แล้วการป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นวิธีที่ง่ายกว่า ประหยัดกว่า และปลอดภัยกว่าเยอะเลยค่ะ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอุณหภูมิสูงตลอดปี ย่อมทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้น การดูแลระบบหล่อเย็นจึงสำคัญมาก

แต่ถ้าคุณไม่แน่ใจ หรือเริ่มกังวลว่ารถจะมีอาการแปลกๆหรือเปล่า เช่น น้ำหายบ่อย หรือเครื่องเริ่มอืดกว่าปกติ อย่ารอให้เกิดความเสียหาย ลองแวะมาตรวจสภาพเช็กกับช่างผู้เชี่ยวชาญให้ชัวร์จะดีกว่าค่ะ

ที่ อู่ไรส์ซิ่ง เรามีบริการตรวจสภาพรถอย่างละเอียด พร้อมดูแลระบบหล่อเย็นและซ่อมแซมเครื่องยนต์ทุกประเภท ด้วยทีมช่างมืออาชีพที่เข้าใจทั้งรถทั่วไป รถยนต์ไฟฟ้า รถยุโรป เช่น ซ่อม porsche ซ่อม Benz หรือซ่อม BMW ที่ต้องการความพิถีพิถันเป็นพิเศษ

ไม่ว่ารถของคุณจะมีอาการน้ำหายบ่อย เครื่องยนต์ร้อนจัด หรืออยากเช็กสภาพระบบระบายความร้อน ก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้เลย เรามีหลายสาขาให้เลือกตามความสะดวก และหากต้องการซ่อม Porsche หรือรถยุโรปโดยเฉพาะ สามารถติดต่อที่ ไรส์ซิ่ง ออโตโมทีฟ สาขาบางแคได้เลยค่ะ

สาขาบริการ

  • สาขากำนันแม้น อยู่ในซอยโฮมโปร กัลปพฤกษ์ เข้ามาประมาณ 1 กม. (ตรงข้ามซอยศาลธนบุรี 29)
  • สาขาพุทธบูชา 36 อยู่ในซอย พุทธบูชา 36 แยก 1 บริเวณอู่รถเมล์สาย75 ซอยข้าง 7-11 หมู่บ้านสรัญธร
  • สาขาบางแค อยู่ติดถนนใหญ่บางแค ตรงข้ามระหว่างซอยบางแค 16 และ 14 เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ *รับซ่อมรถยุโรปโดยเฉพาะ

หรือจะโทรสอบถามได้เลยที่ 095-535-9797 (คุณภูมิ)

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้